จากดาวประกายพรึก-เดลินิวส์
อย่างนี้จะเรียกประจานความล้มเหลวของ “คมช.” หรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะ 1 ใน 4 ข้อที่คมช.ลากรถถังมาสร้างวงจรอุบาทว์ให้ประเทศอีกครั้งเมื่อ 19 กันยาฯ ก็คืออำนาจเก่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากจนรับไม่ได้
แต่ล่าสุดองค์กรความโปร่งใสโลกที่เที่ยวจัดอันดับความโปร่งใสให้ 163 ชาติกลับไม่ไว้หน้า
ทุบอันดับความโปร่งใส ของไทยจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 63 หลุ่นตุ๊บมาอยู่ที่ 84 รวดเดียว 21 อันดับรวด
ระดับเดียวกับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนากาบองจาเมกา คิริบาติเลโซโทมาซิโดเนีย ฯลฯ โน่น
จะเกี่ยวข้องกับข่าวลือที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานคมช.ออกมาแฉข่าวทหารใหญ่บางคนไปเที่ยวตบทรัพย์เอกชน เอาคนเลวเป็นที่ปรึกษา จนกระฉ่อนเมือง
หรือกินมูมมามที่รัฐวิสาหกิจหลายแห่ง แต่สวรรค์มีตา จนไปไม่รอด หรือเปล่า ก็ไม่รู้สิ
แต่ยังดีได้ธนาคารโลกมากู้หน้าไว้บ้างจัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศน่าลงทุนเพราะมีการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากสุดเป็นอันดับที่15จาก178ประเทศได้ชื่นใจบ้าง
นี่ขนาดถูกปู้ยี่ปู้ยำจากการปฏิวัติมาปีเศษ ๆ แสดงว่าระบบเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งพอใช้
ก็เพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงมองข้ามช็อตไปที่การเลือกตั้งสิ้นปี ไม่หวังอะไรกับขิงแก่แล้ว
พรรคพลังประชาชน เปิดตัว สส.ภาคอีสาน
เห็นภาพการปราศรัยของ เนวิน ชิดชอบ จากพลังประชาชนที่ “บุรีรัมย์”ท่ามกลางคนฟังเฉียดแสนแล้ว บอกได้คำเดียว คมช.สมควรหนาวแล้ว เพราะฐานที่มั่นอีสานยังเป็นของไทยรักไทยชัดเจน
ไอ้ประเภทปากเปราะบอก จ้างคนละ 100 มาฟังเหมือนดูถูกคนอีสานว่ารับเงินลงประชามติไม่เอารัฐธรรมนูญน่ะ เลือกตั้งรู้ หมู่หรือจ่า
เนื้อหาที่เนวินพูดเป็นไฮไลต์ว่าถูกจับขังเดี่ยว 11 วัน 10 คืน วันสุดท้ายถูกทหารจับยัดรถตู้วน 2 ชั่วโมงก่อนจับ “แก้ผ้า” ตรวจภายใน แล้วปล่อยลงจากรถให้กลับบ้านได้น่ะ
จะจริงเท็จแค่ไหน หรือแค่ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จแบบที่ “บิ๊กบัง” ตอกกลับ ก็ว่ากันไป
แต่ที่แสลงหูสุดก็ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาค 2 ที่แสดงอำนาจปืน “การขออนุญาตครั้งต่อไป จะให้กำหนดเป็นหัวข้อต่าง ๆ ในการปราศรัยแต่ละครั้ง” อ้างบุรีรัมย์เป็นพื้นที่กฎอัยการศึก
บอกตรง ๆ มันบ่งบอกว่าประเทศนี้กำลังเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยแบบที่นายกฯ คุยที่ยูเอ็นมากสินะ
ประสาอะไร พระสงฆ์กับม็อบที่กำลังเดินขบวนขับไล่รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าด้วยมือเปล่า ปืนยังเอาไม่อยู่ แล้วเรื่องอะไรประเทศที่กำลังจะคืนอำนาจอธิปไตยประชาชน
ทหารถึงมีสิทธิมาเที่ยวกำหนดว่า ประชาชนจะต้องพูดในหัวข้อที่ทหารกำหนดไว้เท่านั้น หรือประชาชนจะต้องฟังในสิ่งที่ทหารต้องการให้ฟังเท่านั้นหรือ
มันสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยตรงไหนไม่ทราบ หมิ่นประมาทก็ฟ้องเอาสิ ยุค “ตุลาการภิวัตน์” นี่
เหนืออื่นใด ผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ได้ชื่อว่าเหมาะสม มีวุฒิภาวะ ประกาศก้องจะเอาทหารกลับกรมกอง ก็ควรยกเลิกกฎอัยการศึกงี่เง่า เพื่อความเป็นธรรมเสียด้วย เหลือไว้แค่ 3 จังหวัดใต้ก็พอแล้ว
จะคงไว้อีก 26 จังหวัดในอีสานเพื่ออะไร หรือเพื่อประจานความเป็นเผด็จการ “ท็อปบู๊ต” ต่อไป ไม่คุ้มหรอก???.